บทสรุป

บทสรุป

พระมหาโพธิสัตว์บัญญัติห้ามการบริโภคสิ่งมีชีวิต มีเลือดเนื้อ และมีวิญญาณ แต่มนุษย์บางหมู่เหล่ากลับถือว่าผักบางชนิดที่มีกลิ่นคาว หรือทำให้เกิดความกำหนัด เป็นสิ่งต้องห้ามของผู้ถือศีลเจพรต ฉะนั้น ฆราวาสทั้งหลายจงทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่าสิ่งเหล่านี้มิได้อยู่ในข้อบัญญัติของศีลเจพรต เพราะตามกฎเกณฑ์ของพระมหาโพธิสัตว์ที่ได้มีขึ้นเป็นเวลานานมาแล้วนั้น มิได้บัญญัติรวมถึงผักที่มีกลิ่นคาว
พระมหาโพธิสัตว์ต้องการให้มนุษย์เราได้พิจารณาถึงชีวิตของสัตว์น้อยใหญ่ ที่มนุษย์เราจะนำมาประกอบเป็นอาหาร ควรที่จะบริโภคด้วยความสำรวม และไม่เลือกรสชาติ แต่เป็นเพียงการบริโภค เพื่อบรรเทาความหิวโหย ที่ร่างกายของมนุษย์เป็นปุถุชนยังต้องการอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีพและร่างกาย เพราะ อาหารที่ปราศจากการเบียดเบียน ก็สามารถช่วยให้มนุษย์ผู้เป็นสัตว์อันประเสิรฐดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างผาสุข หากรู้จักการบริโภคแต่เพียงพอ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์
มนุษย์บางส่วนกลับถือว่าการเบียดเบียนสัตว์นั่นแหละเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ผู้ที่ยึดอยู่กับการไม่เบียดเบียนกลับถูกตำหนิว่าเป็นผู้ที่คร่ำครึก ล้าสมัย ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ถ้าหากว่ามนุษย์เรามีจิตเมตตา มีปัญญาที่ละเอียดอ่อนเพื่อพิจารณาให้ลึกซึ้ง ก็จะเห็นว่า ผู้ที่เบียดเบียนเนื้อสัตว์ต่างๆ นานานั้น เปรียบเสมือนกับพญายักษ์ เพราะจะมีแต่ความโลภโมโทสันต์ไม่มีสิ้นสุด มีแต่ความอิจฉาริษยา มีแต่การจองล้างจองผลาญไปทุกๆ ชาติ จนเกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวรผูกพันจิตใจในการที่จะประหัตประหารกันไม่มีวันสิ้นสุด เพราะหากมีมากขึ้นมากขึ้น ก็เปรียบเสมือนไฟที่ชนะน้ำ หากมนุษย์เราเปรียบเสมือนน้ำ คือรู้จักการบริโภคอาหารที่ไม่เบียดเบียนมากขึ้นมากขึ้น น้ำก็ย่อมชนะไฟได้ ฉันใดฉันนั้น
ผู้มีวิบากกรรมทั้งหลายที่ต้องเกิดมาชดใช้หนี้กรรมกันในชาตินี้ แต่มีจิตใจเป็นกุศล โดย การหมั่นสร้างอานิสงส์บุญกุศล และอยู่ในศีลเจพรต เป็นเครื่องแสดงถึงผู้ที่รู้ผิดรู้ชอบ หากมีความอดทน และต้องการที่จะชดใช้กรรมให้หมดสิ้นกันไป ก็ ควรจะเพียรหมั่นสะสมสร้างแต่กรรมดีให้มากๆ เพื่อให้กรรมชั่วนั้นตามไม่ทันกรรมดีที่เราสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า กรรมดีส่วนกรรมดี กรรมชั่วส่วนกรรมชั่ว
เมื่อเรามีกรรมอย่างใดมากกว่า ก็ย่อมมีโอกาสที่จะได้เสวยกรรมนั้นก่อน และมีโอกาสที่จะนำกรรมดีมาผ่อนปรนใช้หนี้กรรมในทางที่ถูกต้อง โดยการเจรจาขอร้องต่อเจ้ากรรมนายเวร เพื่อให้มีความยินยอมพร้อมใจที่จะอโหสิกรรมกันทั้งสองฝ่าย หรือมีการขอพักกรรม โดยการอธิษฐานขอต่อ เสด็จพ่อฟ้า เสด็จแม่ดิน และ พระมหาโพธิสัตว์ จึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการที่จะผ่อนใช้ เพื่อลบล้างหนี้กรรมให้หมดสิ้นไปซึ่งกันและกัน

การที่เราถือศีลเจพรต แสดงว่าเราเป็นผู้มีเมตตาเป็นที่ตั้ง เพื่อละจากการเบียดเบียน โดยเอาจิตเราใส่จิตเขา เขาทุกข์ก็จงคิดว่าเราทุกข์ หากจิตเราเป็นสุข เอาสุขนั้นเข้าสู่จิตผู้อื่น ผู้อื่นย่อมเกิดสุขแน่ สิ่งที่จะได้รับตอบแทน คือสุขนั้นย้อนเข้าสู่จิตของเรา หากเมตตาของเราสูงขึ้น ก็ย่อมต้องเกิดผลดีทุกๆ ด้าน ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม สัมมาอาชีพก็ย่อมเกิดผลเจริญงอกงาม และทางครอบครัวก็ย่อมเกิดความอุดมสุข อีกทั้งด้านการประพฤติปฏิบัติธรรมก็ย่อมเกิดผลดีนำจิตเข้าสู่สุขบรมสุข อย่างแน่นอน
ผู้อ่านทั้งหลายจงพิจารณาเถิดว่า วัตถุนั้นเจริญสุดขีดแล้ว ก็ย่อมเสื่อมสลายลงได้ ฉะนั้น การที่เราเป็นพุทธบริษัทก็ควรยึดมั่น และปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนการยึดในศีลการไม่เบียดเบียนของพระมหาโพธิสัตว์ โลกนี้จะเกิดสันติสุข โลกนี้จะน่าอยู่อาศัยมากกว่าปัจจุบัน และจะเป็นการพาจิตวิญญาณของเราก้าวสูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง.