พระขุนแผนแสนแสบ จัดสร้างโดยมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง
|
สะเทิ้นฟ้า สะท้านดิน
พระขุนแผนแสนแสบ สองตำนานความรักอมตะ ของแม่นาคพระโขนงและพรายแม่ส้มอันเป็นปฐมกำเนิด
พระขุนแผนพรายกุมารอันลือลั่น ในวาระที่มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก มีอายุครบ ๓๗ ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จึงบรรจงสร้าง พระขุนแผนแสนแสบให้เป็นอมตะพระเครื่องขึ้นอีกครั้ง เพื่อหาปัจจัยทำนุบำรุงวัดละหารไร่ เชิดชูเกียรติคุณของหลวงปู่ทิมและบำเพ็ญสาธารณกุศล
กิจการที่ดำเนินการไปแล้ว
ซื้อที่ดินขยายวัดละหารไร่จาก ๑๕ ไร่เป็นกว่า ๘๐ ไร่ ซื้อที่ดินให้โรงเรียนซึ่งไม่มีที่ดินเป็นของโรงเรียนเองให้อีก ๙ ไร่ ๒ งาน มีที่ดินงอกเพิ่มขึ้นอีกกว่า ๒ ไร่ ได้ยกให้วัดละหารไร่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลังจากรูปเหมือนองค์ใหญ่สร้างเสร็จ หาปัจจัยร่วมสร้างถาวรวัตถุให้วัดละหารไร่ มาโดยตลอด
ช่วยการศึกษาโรงเรียนต่างๆ ใน อ.บ้านค่าย จ.ระยองให้ทุนนักเรียนจนจบการศึกษาวิทยาลัยพยาบาล ให้ทุนสามเณรจนสอบได้เปรียญ ๘
ตั้งหน่วยช่วยเหลือประชาชนโดยทั่วไปที่มาบตาพุด จนหัวหน้าหน่วยได้รับเลือกตั้งเป็น สจ. ติดต่อกันมาหลายสมัยจนเป็นถึง รอง ประธาน อบจ. จังหวัดระยอง
ยกย่องเชิดชูเกียรติคุณความดีของหลวงปู่ทิม มาตลอดในวาระ ๓๗ ปี ในการก่อตั้งมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จึงสร้างพระขุนแผนพรายกุมาร เอกลักษณ์และ อมตะพระเครื่องของหลวงปู่ทิมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำรายได้ เพิ่มทุนมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก สมทบทุนสร้างรูปเหมือนและสนับสนุนหน่วยช่วยเหลือประชาชนของมูลนิธิ
รูปเหมือนยืน หลวงปู่ทิม อิสริโก ขนาดสูง ๑๑.๙ นิ้ว |
พระขุนแผนพรายกุมารแสบแสบ(เนื้อดำ)
(ตะกรุดทองคำและตะกรุดเงิน)
พระขุนแผนแสนแสบ ตะกรุดทองคำ ด้านหน้า ผงตะไบชินบัญชร
ด้านหลังตะกรุดทองคำ ๒ ดอก
พระขุนแผนพรายกุมารแสนแสบหลังตะกรุดทองแดง(เนื้อขาว)
พระขุนแผนพรายกุมารแสนแสบหลังตะกรุดทองแดง(เนื้อแดง)
พระขุนแผนพรายกุมารแสนแสบหลังตะกรุดทองแดง(เนื้อเขียว)
พระขุนแผนพรายกุมารแสนแสบหลังตะกรุดทองแดง(เนื้อดำ)
พระขุนแผนพรากุมาร แสนแสบพิมพ์เล็ก(เนื้อแดง) |
พระขุนแผนพรายกุมาร แสนแสบพิมพ์เล็ก (เนื้อเขียว) |
พระขุนแผนพรายกุมาร แสนแสบพิมพ์เล็ก (เนื้อขาว) |
หลังตะกรุดทองแดง จำนวนสร้าง 2339 องค์ในจำนวนนั้น แบ่งออกเป็น 4 เนื้อ สีดำ,ขาว,เขียว,แดง,
ตะกรุด "สาริกา" จารมือทุกดอก นำมาบรรจุในพระขุนแผนแสนแสบ
(ตะกรุดทองคำและเงินจะมีสีดำสีเดียว )
เกิดจากตำนานรักอันเป็นอมตะของ ๒ สาวแห่งคลองแสนแสบบ้านพระโขนงและแม่ส้มแห่งบ้านบางบุตร อ. บ้านค่าย จ.ระยอง ที่หลวงปู่ทิม ศึกษาค้นคว้า นำพลังแห่งความรักของแม่ที่มีต่อลูกต่อผัวมาผูกพัน ตั้งธาตุเรียกรูปเรียกนาม ให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ ด้วยพุทธานุภาพและพลังสมาธิเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ผสมด้วยผงพรายกุมารและผงพุทธคุณต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมยัดเยียดให้ไว้กับศิษย์คนสุดท้ายที่วัดละหารไร่ ขณะนอนให้น้ำเกลือก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งยังได้รับผงพรายก้นครกจากหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ศิษย์เอกที่หลวงปู่ใช้ให้เตรียมว่านต่างๆ และตำผงผสมผง ทั้งผงจากนายสิงห์ราช อัมฤทธิและอดีตพระทองสุข วงศ์จันทร์ ที่ขออนุญาติหลวงปู่ทิมเก็บไว้เป็นของวิเศษสอนตัว นอกจากนั้นยังได้ดินจากถ้ำขุนแผนตรงที่ผ่าท้องนางบัวคลี ย่างกุมารและดินที่ ๘ ปรามาจารย์นั่งล้อมวงประลองวิชากันในถ้ำใหญ่ มาผสมด้วย
ถอดแบบมาจากพระขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิมทั้ง ๒ พิมพ์ ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
ปลุกเสกตามแบบฉบับของหลวงปู่ทิม “ชาติเสือต้องหาเนื้อกินเอง” หรือ “เดี่ยวอย่างมั่นใจ ไม่ต้องให้ใครมาช่วยเดี่ยว” พระครูอมรธรรมโมภาสหลวงปู่ชม วัดสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ปลุกเสกเดี่ยว ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๓๙ น.
ขุนแผนแสนแสบเป็นขุนแผนที่ไม่หนีห่างจากสากหักแน่นอนครับ
เพราะทั้งพิธี และพระเกจิที่มาเสก
ทั้งหลวงปู่ชม เกจิแห่งอีสานเหนือ และก๋งเตื่องเกจิสองแผ่นดินไทย-เขมร
ชมภาพพิธี ปลุกเสก”ขุนแผนแสนแสบ” วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
ชมภาพพิธี วันที่16 ตุลาคม 2556 พิธีเททองหล่อ หลวงปู่ทิม องค์ใหญ่ วัดละหารไร่
ลำดับ
|
รายการ
|
จำนวนสร้าง
|
บูชาองค์ละ
|
๑
| ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองคำ(เนื้อดำ) |
339
|
3,000
|
๒
| ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดเงิน(เนื้อดำ) |
639
|
1,000
|
๓
| ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองแดง (เนื้อดำ,ขาว,เขียว,แดง) |
2339
|
600
|
๔
| ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ ผงพุทธคุณ (เนื้อดำ,ขาว,เขียว,แดง) |
16339
|
300
|
๕
| ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์เล็ก ผงพุทธคุณ (เนื้อดำ,ขาว,เขียว,แดง) |
16339
|
100
|
๖
| รูปเหมือนยืน ขนาด 11.9 นิ้ว |
ตามจอง
|
3,500
|
ค่าจัดส่ง พระขุนแผน Ems: 100.- ( รูปเหมือน..200.-)
รูปเหมือนยืน จะปิดรับจองปลายเดือน กันยายน 2556
ได้ถามอาจารย์ชินพรว่า ระหว่างพระขุนแผนสากหัก กับรุ่นแสนแสบนี้ ใครมีผงมากกว่ากัน อาจารย์ชินพร ตอบว่า "รุ่นนี้ ผงมากกว่ามาก..!!!!!!!!"
สุดยอดมวลสาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556(ยอดขุนพลพระโขนง+บ้านค่าย)
เพิ่มทวีคูณ”ความขลัง” ให้ "สะเทิ้นฟ้า สะท้านดิน"
อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ทำพิธีบวงสรวง,พลีมวลสาร แม่นาคพระโขนง ที่วัดมหาบุศย์ สร้างพระขุนแผนแสนแสบ สองแม่แห่งตำนานความรักอมตะ
(แม่นาค+แม่ส้ม)เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
(แม่นาค+แม่ส้ม)เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
หลังจากขอมวลสารแล้ว อาจารย์ชินพรก็ได้ตักผงธูปแม่นาคพระโขนงมาสร้างพระขุนแผนแสนแสบ(ยอดขุนพลพระโขนง+บ้านค่าย)
รับมอบมวลสารต่อหน้าศาลแม่นาคพระโขนง
พระขุนแผนแสนแสบ
เกิดจากตำนานรักอันเป็นอมตะของ
๒ สาวแห่งคลองแสนแสบบ้านพระโขนงและแม่ส้มแห่งบ้านบางบุตร อ. บ้านค่าย จ.ระยอง
ที่หลวงปู่ทิม ศึกษาค้นคว้า นำพลังแห่งความรักของแม่ที่มีต่อลูกต่อผัวมาผูกพัน
ตั้งธาตุเรียกรูปเรียกนาม ให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ ด้วยพุทธานุภาพและพลังสมาธิเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
ผสมด้วยผงพรายกุมารและผงพุทธคุณต่างๆ
ที่หลวงปู่ทิมยัดเยียดให้ไว้กับศิษย์คนสุดท้ายที่วัดละหารไร่
ขณะนอนให้น้ำเกลือก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งยังได้รับผงพรายก้นครกจากหมอกุหลาบ
จ้อยเจริญ ศิษย์เอกที่หลวงปู่ใช้ให้เตรียมว่านต่างๆ และตำผงผสมผง
ทั้งผงจากนายสิงห์ราช อัมฤทธิและอดีตพระทองสุข วงศ์จันทร์
ที่ขออนุญาติหลวงปู่ทิมเก็บไว้เป็นของวิเศษส่วนตัว
นอกจากนั้นยังได้ดินจากถ้ำขุนแผนตรงที่ผ่าท้องนางบัวคลี ย่างกุมารและดินที่ ๘
ปรามาจารย์นั่งล้อมวงประลองวิชากันในถ้ำใหญ่ มาผสมด้วย
ถอดแบบมาจากพระขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิมทั้ง
๒ พิมพ์ ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
พระครูอมรธรรมโมภาสหลวงปู่ชม
วัดสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย และก๋งเตื่อง
เตชปัญโญ วัดคลองจาก จ.ตราด ปลุกเสก ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๑๙ น.
พิธีปลุกเสก พระขุนแผนแสนแสบ โดย ๒ สุดยอดเกจิ
ในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
ที่มูลนิธิหลวงปู่ทิม
อิสริโกกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคมที่ผ่านมานี้ หลวงปู่ชม โอภาโส
ศิษย์เอกหลวงปู่พิบูลย์ ผู้ถูกทางการจับถ่วงน้ำที่เกาะสีชัง ๗ วัน ๗ คืน
ข้อหาผีบุญ มาร่วมปลุกเสก พระขุนแผนแสนแสบแบบกฤตยาคมหนึ่งต่อหนึ่งกับก๋งเตื่อง
จากเกาะกง กัมพูชา ซึ่ง ๒ ท่านผู้ยิ่งใหญ่นายพลเตียปันและสมเด็จฮุนเซ่นก็ยังนับถือ
เมื่อหลวงปู่ชมมาถึงพิธีบวงสรวงครูบาอาจารย์
เวลา ๐๙.๑๙ น. ได้เริ่มขึ้น หลวงปู่ชม จุดเทียนชัย
พระอาจารย์เปิ้ลศิษย์เอกหลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฎร์บำรุงและพระ ๒ รูปสวดชยันโต
จากนั้นหลวงปู่ชมนั้งปลุกเสกเดี่ยว
ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเหนือมณฑณพิธีมีภาพแปลกประหลาด
พระอาทิตย์ที่แผดแสงลงมาอย่างร้อนแรงกลับเย็นสบาย
มีกลุ่มเฆมทยอยมาบดบังแสงอาทิตย์เป็นระยะๆ
ผู้มาร่วมพิธีหลายร้อยคนได้ยกกล้องมือถือขึ้นถ่ายภาพปรากฏการณ์บนท้องฟ้าไปตามๆกัน
ก่อนเที่ยงก๋งเตื่องมาถึง
พระอาทิตย์กำลังแผดแรงกล้าอยู่ ก็ได้มีการปลุกเสกแบบกฤตยาคมแฝด
ระหว่างสองพระเกจิอาจารย์ระหว่างไทยและเขมรเกิดขึ้น
นอกจากพระขุนแผนแสนแสบ
รูปหล่อพิมพ์ยืนหลวงปู่ทิมแล้ว ยังมีการปลุกเสก
ชูชกมหาขอทานโลกที่สร้างจากไม้แกะองค์ใหญ่และเนื้อผงกลมองค์เล็กที่เป็นทั้งยอดขอและยอดเรียกคือ
นางพันธุรัต ยอดเรียกเจ้าของมนต์มหาจินดามณี
ซึ่งหลวงปู่ทิมใช้เป็นยันต์ประจำตัวท่านและจารึกไว้หลังพระขุนแผนทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
จนเป็นที่เลื่องลือจากพระแจกฟรี มีราคาก็๑๐-๒๐ บาท ปัจจุบันองค์หลายหมื่น หลายแสนจนเป็นล้านไปแล้วก็มี
หลวงปู่ชมท่านเก่งและเชี่ยวชาญเรื่องมนต์ชูชก มีชูชกอยู่ที่ไหนบูชาไว้ในบ้าน
บ้านนั้นจะอุดมด้วยแก้วแหวนเงินทองมีทรัพย์สินไม่ขาดสาย
การประกอบพิธีปลุกเสกในครั้งนี้ซึ่งนานทีจะมีสักครั้ง
เพราะจะหายอดพระเกจิที่เก่งกล้าจริงๆมาร่วมกันถึง ๒ องค์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
และแต่ละองค์ก็ผ่านสัมผัสจากศิษย์เอกหลวงปู่ทิมคนสุดท้ายมาแล้ว
จึงมีการหุงน้ำมันยอดเรียกยอดขอขึ้นมาด้วยเรียก”น้ำมันชูชก
สาลิกากระดังงาลนไฟ”เจ้าพิธีได้เรียกอาจารย์เจ็ท
ศิษย์หนุ่มที่ได้รับการประสิทธิวิชามหาเสน่ห์อย่างสูงมีตบะเดชะแก่กล้า
สามารถขนาดขุดศพผีตายทั้งกลมมาประกอบพิธีได้และได้ประจักษ์มาแล้วในงานปลุกเสกขุนแผนเวสิยาฤกษ์ในชุดพระกริ่ง
๙ ฤกษ์ เพื่อหาเงินเริ่มต้นในการสร้างรูปหล่อหลวงปู่ทิมองค์ใหญ่
ขณะหุงน้ำในกระทะจารึกมนต์ชูชก อาจารย์เจ็ทได้ร่ายพระเวทย์ติดต่อกันตลอดเวลา
ท่ามกลางการแปลกใจและทึ่งในความสามารถที่จดจำพระคาถามหานิยมมหาเสน่ห์ตลอดจนมนต์ดำมนต์มหาราคะได้อย่างเชี่ยวชาญและแม่นยำ
ก่อนลงมือหุงน้ำมันชูชกหลวงปู่ชมได้เรียกอักขระเลขยันต์และหุงเป็นปฐมฤกษ์
ชูชกมหาขอท่านโลกผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ส่งเสริมบารมีให้พระพุทธองค์ได้บำเพ็ญทานบารมีขั้นสูงสุดที่บริจาคเมียและลูกให้เป็นมหาทาน
ในขณะประกอบพิธีโดยยอดพระเกจิอาจารย์ของ
๒ ประเทศ ปรากฏการณ์แปลกบนท้องฟ้าเหนือประรำพิธีก็เกิดขึ้นเป็นระยะๆ
อากาศโดยทั่วไปแม้นจะร้อนอบอาวแดดแรงจัด แต่ก็ไม่ร้อนลมพัดมาเป็นระยะทำให้เย็นสบาย
เมฆลอยมาบดบังแสงพระอาทิตย์เป็นระยะๆทำให้บังเกิดความร่มเย็น “เนาว์ นรญาณ”
และ
“พรบูรพา” สองท่านได้ติดตามงานพิธีของมูลนิธิหลวงปู่ทิม
มาโดยตลอดคลิกภาพที่ถ่ายไว้ได้ออกให้ดู ของคุณเนาว์
เห็นเป็นภาพด้านข้างของหญิงสาวที่มีผมยักเป็นคลื่นๆ ชัดเจนมาก
ส่วนของพรบูรพามีภาพดวงแสงสีขาววิ่งไล่กันไปวิ่งไล่กันมาตามขอบเมฆที่เป็นภาพประหลาดๆ
ผู้มีญาณสัมผัสกล่าวว่าทั้งแม่นาคและแม่ส้มต่างมาช่วยกันหาเงินช่วยมูลนิธิหลวงปู่ทิมปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในเรื่องพรายกุมาร
หลังจากพิธีปลุกเสกแบบกฤตยาคมแฝด
ชนิดที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อนของ ๒ พระเกจิอาจารย์ หลายๆคนถามหลวงปู่ทั้ง ๒
องค์ว่าดีทางไหน ท่านบอกพระในพิธีนี้ดีทุกทาง ใช้ได้ทุกอย่าง
แล้วแต่จะอธิฐานเอาเถิด มหานิยมที่เกิดจากพลังแห่งความรักครั้งนี้สุดยอดจริงๆ
จะหาใครทำได้เสมอเหมือนนั้นยากมาก