วัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ซื้อที่ขยายวัดโคกอู่ทอง
วัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันต คาม จ.ปราจีนบุรี ปัจจุบันมี "พระครูธำรงโพธิเขต" หรือ "หลวงปู่โสฬส ยโสธโร" สิริอายุวัฒนมงคล 96 พรรษา 75 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านเป็นศิษย์ธรรมทายาทหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน เป็นต้น
"หลวงปู่โสฬส" นับว่าเป็นพระสงฆ์ สุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้เคารพเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอายุกาลพรรษาด้วยคุณวุฒิที่เป็นนักการศึกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตรเป็นนักการปกครอง กล่าวคือได้ดำรงตำแหน่งทางด้านการปกครองสงฆ์ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌายาจารย์ และเจ้าคณะตำบลมายาวนานตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2490
ในด้านพุทธเวทไสยาคมก็ ไม่เป็นสองรองผู้ใด เนื่องจากเป็นศิษย์ผู้สืบ ทอดวิทยาคมจากพระเกจิดัง ผู้เรืองนามในอดีต คือได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจาด แห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโดจีน แต่เป็นช่วงบั้น ปลายอายุขัยของหลวงพ่อจาดแล้ว จึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจากเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่นย่านนั้นอีกรูปหนึ่งคือ "หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม" และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็งมากมาย
วัดโคกอู่ทอง เดิมทีที่วัดมีเนื้อที่เพียง 7 ไร่ ปัจจุบันทางวัดได้ก่อสร้าง "หลวงพ่อทันใจ" พระประธานองค์ใหญ่ที่สวยที่สุดใน "จังหวัดปราจีนบุรี" ขึ้น ทำให้พื้นที่วัดคับแคบไปถนัด ทางคณะกรรมการวัดจึงลงมติที่จะซื้อที่ดินขยายที่วัดเพิ่มเติม ทางด้านทิศตะวันออกจำนวน 7 ไร่ นายวิเชียร เชิดชูชาติ และนายสมชัย ยาจันทร์ทา เป็นผู้จัดหาทุน ทางด้านทิศเหนือ จำนวน 5 ไร่ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร และนายศุภฤทธ์ พิมพระวัตร เป็นผู้จัดหาทุน ในการซื้อที่ดินในครั้งนี้ ทำให้วัดโคกอู่ทอง ณ เวลานี้มีจำนวนพื้นที่ทั้งหมด 19 ไร่
วัตถุประสงค์หลักของการซื้อที่ดินขยายพื้นที่วัดในครั้ง นี้มีวัตถุประสงค์ใหญ่อยู่ 3 เรื่องคือ 1.พัฒนาวัดโคกอู่ทอง ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัด ปราจีนบุรี 2.ก่อสร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กเพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรมสำหรับพระภิกษุสงฆ์และสามเณร 3.ก่อสร้างวิหารมณฑป ในโอกาสต่อไป
หลวงปู่โสฬส ท่านจึงให้ศิษย์ได้จัดสร้าง "วัตถุมงคล รุ่นเจริญลาภ" ขึ้น เพื่อหารายได้ซื้อที่ดินในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.เหรียญเจริญลาภหลังยันต์เกราะเพชร 2.รูปหล่อปั๊มเจริญลาภ พิมพ์เข่ากว้างหลังเต็ม 3.พระสมเด็จเจริญยศ พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร 4.กำไรเจริญลาภมหาเศรษฐี 5.ถุงโภคทรัพย์เจริญลาภ 6.เศียรปู่ฤาษีนารอด
หลวงปู่โสฬส อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ครั้งที่ 1 วันแห่ง ความเป็นหนึ่งในรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 1 แรม 11 ค่ำ เดือน 1 สุดเข้มขลัง เพ่งกสิณไฟจนเทียนน้ำมนต์หมดเล่ม อธิษฐานจิตปลุกเสก สมโภชวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ครั้งที่ 2 ภายในอุโบสถวัดโคกอู่ทอง เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2554 พระสวดชะยันโต 8 รูป ปลุกเสกแบบปิดประตูโบสถ์ ให้เป็นมหาอุด เปิดหน้าต่างโบสถ์ ให้เป็นมหาลาภ เปรียบเหมือนเป็นปริศนาธรรม "ให้มีรายรับมากกว่ารายจ่าย"
หลังจากเปิดให้สั่งจองและบูชาเพียงหนึ่งเดือน ได้มอบเงินมัดจำที่ดินครั้งที่ 1 จำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) โดยมีอาจารย์ศุภศักดิ์ ดงคำศรี และผู้ใหญ่ดำรง ไชยยันต์ ผู้ใหญ่บ้านโคกอู่ทอง เป็นผู้รับมอบ ครั้งที่ 2 เดือนพฤษภาคม วันสรงน้ำหลวงปู่โสฬส จำนวน 300,000 บาท ครั้งที่ 3 เดือนตุลาคม วันทอดกฐินสามัคคี ให้ครบจำนวนหนึ่งล้านบาท
สำหรับศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่โสฬส ที่ประสงค์จะร่วมสร้างทานบารมีซื้อที่ดินขยายที่วัดโคกอู่ทอง ร่วมกับหลวงปู่โสฬสในครั้งนี้ สามารถบริจาคโดยการบูชาวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ได้ที่กุฏิหลวงปู่โสฬสวัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
ประวัติ หลวงปู่โสฬส ยโสธโรหลวงปู่โสฬส ยโสธโร นับว่าเป็นพระสงฆ์สุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้เคารพเป็นอย่างยิ่งด้วยอายุกาลพรรษาที่มากเกือบร้อย ปี ด้วย คุณวุฒิที่เป็นนักการศึกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตรเป็นนักการ ปกครองกล่าวคือได้ดำรงตำแหน่งทางด้านการปกครองสงฆ์ดำรงตำแหน่งพระอุ ปัชฌาจารย์และเจ้าคณะตำบลมายาวนานตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2490 ใน ด้านพุทธเวทย์ไสยยาคมก็ไม่เป็นสองรองผู้ใดเนื่องจากเป็นศิษย์ผู้สืบทอด วิทยาคมจากพระเกจิดังผู้เรืองนามในอดีตคือได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อ จาดแห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทย์ผู้เรือง นามในยุคสงครามอินโดจีนแต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จาดแล้วจึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจากเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่น ย่านนั้นอีกรูปหนึ่งคือหลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็ง โดยเฉพาะมหายันต์เกราะเพชรที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีใจรักและฝักใฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้วนอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านการ ศึกษาและบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ได้หาโอกาสไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้าน กฤติยาคมในยุคนั้นอีกหลายรูปคือหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ศึกษาวิชาปรอทจากหลวงปู่อวน วัดหนองพลับ อ.หนองแซง จ.สระบุรี ศึกษาวิชาเสือปรอทจากพระอาจารย์ วัน เขาวงถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี ศึกษาวิชาอาคมทางสายอีสานจากอาจารย์พรหมมา อาจารย์หมอธรรมผู้เรืองนามใน จ.นครราชสีมา ศึกษาวิชาอาคมจากอาจารย์ชื่น อาจารย์ฆราวาสผู้มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน ฯลฯ ท่านมีความเชี่ยวชาญทั้งอักขระขอมไทย และอักขระ ขอมลาว และยังมีความสามารถด้านโหราศาสตร์ และ ด้านสมุนไพรไทยอีกโสตหนึ่ง นับได้ว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครและไม่เสียทีที่เป็นศิษย์ผู้สืบทอดเวทยา คมสืบทอดมาจากบูรพาจารย์ผู้โด่งดังในอดีตในย่านนั้นคือหลวงพ่อจาด แห่งวัดบางกระเบา วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างขึ้นก็มีประสบการณ์มากมายจากผู้บูชานำไปใช้ โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกที่ท่านสร้างแจกทหารหาญผู้อาสาสมัครไปปฏิบัติราชการ ณ สงครามเกาหลี ในปีพุทธศักราช 2495 ขณะ นั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโพธิ์ทองและเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทองอยู่ในขณะ นั้น และเหรียญนี้ก็ได้ทำการแจกจ่ายให้ทหารหาญเรื่อยมาในราชการสงครามเวียดนาม ลาว เขมร และในราชการสงครามปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบคือราชการชายแดน เรียกกันว่าเหรียญ 5 สมรภูมิ มีประสบการณ์มากมายมิต้องกล่าวถึงขณะนี้เป็นที่เสาะแสวงหาของประชาชนในท้อง ถิ่นข้างเคียงเป็นอย่างยิ่ง
หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร สถานะเดิม หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร นามเดิมว่า รส นามสกุล ไชยยันต์ บิดามีนามว่า ทองแดง มารดานามว่า นาก เกิดเมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2457 ตรงกับวันเสาร์ แรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง เกิดที่ ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี อุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2477 อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เวลา 15.05 น. เจ้าอธิการ ตาล เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการ วุ้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการ ศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า ยโสธโร แปลว่า ผู้มียศ เมื่ออุปสมบทแล้วจำพรรษา ณ วัดโคกอู่ทอง มาตลอด การศึกษา พ.ศ. 2479 สอบได้ชั้นนักธรรมตรี ณ สำนักเรียนวัดบ้านโง้ง ปราจีนบุรี ทางด้านการพัฒนาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2480 จนถึงปัจจุบัน