ประวัติ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร ปราจีนบุรี

วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7397 ข่าวสดรายวัน
วัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ซื้อที่ขยายวัดโคกอู่ทอง

         วัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันต คาม จ.ปราจีนบุรี ปัจจุบันมี "พระครูธำรงโพธิเขต" หรือ "หลวงปู่โสฬส ยโสธโร" สิริอายุวัฒนมงคล 96 พรรษา 75 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านเป็นศิษย์ธรรมทายาทหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน เป็นต้น

           "หลวงปู่โสฬส" นับว่าเป็นพระสงฆ์ สุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้เคารพเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอายุกาลพรรษาด้วยคุณวุฒิที่เป็นนักการศึกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตรเป็นนักการปกครอง กล่าวคือได้ดำรงตำแหน่งทางด้านการปกครองสงฆ์ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌายาจารย์ และเจ้าคณะตำบลมายาวนานตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2490

              ในด้านพุทธเวทไสยาคมก็ ไม่เป็นสองรองผู้ใด เนื่องจากเป็นศิษย์ผู้สืบ ทอดวิทยาคมจากพระเกจิดัง ผู้เรืองนามในอดีต คือได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจาด แห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโดจีน แต่เป็นช่วงบั้น ปลายอายุขัยของหลวงพ่อจาดแล้ว จึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจากเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่นย่านนั้นอีกรูปหนึ่งคือ "หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม" และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็งมากมาย


              วัดโคกอู่ทอง เดิมทีที่วัดมีเนื้อที่เพียง 7 ไร่ ปัจจุบันทางวัดได้ก่อสร้าง "หลวงพ่อทันใจ" พระประธานองค์ใหญ่ที่สวยที่สุดใน "จังหวัดปราจีนบุรี" ขึ้น ทำให้พื้นที่วัดคับแคบไปถนัด ทางคณะกรรมการวัดจึงลงมติที่จะซื้อที่ดินขยายที่วัดเพิ่มเติม ทางด้านทิศตะวันออกจำนวน 7 ไร่ นายวิเชียร เชิดชูชาติ และนายสมชัย ยาจันทร์ทา เป็นผู้จัดหาทุน ทางด้านทิศเหนือ จำนวน 5 ไร่ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร และนายศุภฤทธ์ พิมพระวัตร เป็นผู้จัดหาทุน ในการซื้อที่ดินในครั้งนี้ ทำให้วัดโคกอู่ทอง ณ เวลานี้มีจำนวนพื้นที่ทั้งหมด 19 ไร่

          วัตถุประสงค์หลักของการซื้อที่ดินขยายพื้นที่วัดในครั้ง นี้มีวัตถุประสงค์ใหญ่อยู่ 3 เรื่องคือ 1.พัฒนาวัดโคกอู่ทอง ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัด ปราจีนบุรี 2.ก่อสร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กเพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรมสำหรับพระภิกษุสงฆ์และสามเณร 3.ก่อสร้างวิหารมณฑป ในโอกาสต่อไป

         หลวงปู่โสฬส ท่านจึงให้ศิษย์ได้จัดสร้าง "วัตถุมงคล รุ่นเจริญลาภ" ขึ้น เพื่อหารายได้ซื้อที่ดินในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.เหรียญเจริญลาภหลังยันต์เกราะเพชร 2.รูปหล่อปั๊มเจริญลาภ พิมพ์เข่ากว้างหลังเต็ม 3.พระสมเด็จเจริญยศ พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร 4.กำไรเจริญลาภมหาเศรษฐี 5.ถุงโภคทรัพย์เจริญลาภ 6.เศียรปู่ฤาษีนารอด

          หลวงปู่โสฬส อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ครั้งที่ 1 วันแห่ง ความเป็นหนึ่งในรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 1 แรม 11 ค่ำ เดือน 1 สุดเข้มขลัง เพ่งกสิณไฟจนเทียนน้ำมนต์หมดเล่ม อธิษฐานจิตปลุกเสก สมโภชวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ครั้งที่ 2 ภายในอุโบสถวัดโคกอู่ทอง เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2554 พระสวดชะยันโต 8 รูป ปลุกเสกแบบปิดประตูโบสถ์ ให้เป็นมหาอุด เปิดหน้าต่างโบสถ์ ให้เป็นมหาลาภ เปรียบเหมือนเป็นปริศนาธรรม "ให้มีรายรับมากกว่ารายจ่าย"
               หลังจากเปิดให้สั่งจองและบูชาเพียงหนึ่งเดือน ได้มอบเงินมัดจำที่ดินครั้งที่ 1 จำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) โดยมีอาจารย์ศุภศักดิ์ ดงคำศรี และผู้ใหญ่ดำรง ไชยยันต์ ผู้ใหญ่บ้านโคกอู่ทอง เป็นผู้รับมอบ ครั้งที่ 2 เดือนพฤษภาคม วันสรงน้ำหลวงปู่โสฬส จำนวน 300,000 บาท ครั้งที่ 3 เดือนตุลาคม วันทอดกฐินสามัคคี ให้ครบจำนวนหนึ่งล้านบาท
                 สำหรับศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่โสฬส ที่ประสงค์จะร่วมสร้างทานบารมีซื้อที่ดินขยายที่วัดโคกอู่ทอง ร่วมกับหลวงปู่โสฬสในครั้งนี้ สามารถบริจาคโดยการบูชาวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ได้ที่กุฏิหลวงปู่โสฬสวัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

ประวัติ หลวงปู่โสฬส ยโสธโรหลวงปู่โสฬส ยโสธโร นับว่าเป็นพระสงฆ์สุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้เคารพเป็นอย่างยิ่งด้วยอายุกาลพรรษาที่มากเกือบร้อย ปี ด้วย คุณวุฒิที่เป็นนักการศึกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตรเป็นนักการ ปกครองกล่าวคือได้ดำรงตำแหน่งทางด้านการปกครองสงฆ์ดำรงตำแหน่งพระอุ ปัชฌาจารย์และเจ้าคณะตำบลมายาวนานตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2490 ใน ด้านพุทธเวทย์ไสยยาคมก็ไม่เป็นสองรองผู้ใดเนื่องจากเป็นศิษย์ผู้สืบทอด วิทยาคมจากพระเกจิดังผู้เรืองนามในอดีตคือได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อ จาดแห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทย์ผู้เรือง นามในยุคสงครามอินโดจีนแต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จาดแล้วจึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจากเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่น ย่านนั้นอีกรูปหนึ่งคือหลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็ง โดยเฉพาะมหายันต์เกราะเพชรที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีใจรักและฝักใฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้วนอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านการ ศึกษาและบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ได้หาโอกาสไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้าน กฤติยาคมในยุคนั้นอีกหลายรูปคือหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ศึกษาวิชาปรอทจากหลวงปู่อวน วัดหนองพลับ อ.หนองแซง จ.สระบุรี ศึกษาวิชาเสือปรอทจากพระอาจารย์ วัน เขาวงถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี ศึกษาวิชาอาคมทางสายอีสานจากอาจารย์พรหมมา อาจารย์หมอธรรมผู้เรืองนามใน จ.นครราชสีมา ศึกษาวิชาอาคมจากอาจารย์ชื่น อาจารย์ฆราวาสผู้มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน ฯลฯ ท่านมีความเชี่ยวชาญทั้งอักขระขอมไทย และอักขระ ขอมลาว และยังมีความสามารถด้านโหราศาสตร์ และ ด้านสมุนไพรไทยอีกโสตหนึ่ง นับได้ว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครและไม่เสียทีที่เป็นศิษย์ผู้สืบทอดเวทยา คมสืบทอดมาจากบูรพาจารย์ผู้โด่งดังในอดีตในย่านนั้นคือหลวงพ่อจาด แห่งวัดบางกระเบา วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างขึ้นก็มีประสบการณ์มากมายจากผู้บูชานำไปใช้ โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกที่ท่านสร้างแจกทหารหาญผู้อาสาสมัครไปปฏิบัติราชการ ณ สงครามเกาหลี ในปีพุทธศักราช 2495 ขณะ นั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโพธิ์ทองและเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทองอยู่ในขณะ นั้น และเหรียญนี้ก็ได้ทำการแจกจ่ายให้ทหารหาญเรื่อยมาในราชการสงครามเวียดนาม ลาว เขมร และในราชการสงครามปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบคือราชการชายแดน เรียกกันว่าเหรียญ 5 สมรภูมิ มีประสบการณ์มากมายมิต้องกล่าวถึงขณะนี้เป็นที่เสาะแสวงหาของประชาชนในท้อง ถิ่นข้างเคียงเป็นอย่างยิ่ง

หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร สถานะเดิม หลวงปู่ โสฬส ยโสธโร นามเดิมว่า รส นามสกุล ไชยยันต์ บิดามีนามว่า ทองแดง มารดานามว่า นาก เกิดเมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2457 ตรงกับวันเสาร์ แรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง เกิดที่ ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี อุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2477 อายุ 20 ปีบริบูรณ์ เวลา 15.05 น. เจ้าอธิการ ตาล เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการ วุ้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการ ศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า ยโสธโร แปลว่า ผู้มียศ เมื่ออุปสมบทแล้วจำพรรษา ณ วัดโคกอู่ทอง มาตลอด การศึกษา พ.ศ. 2479 สอบได้ชั้นนักธรรมตรี ณ สำนักเรียนวัดบ้านโง้ง ปราจีนบุรี ทางด้านการพัฒนาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2480 จนถึงปัจจุบัน