มัจฉานุ มันเก่งทั้งในน้ำและบนบก บนอากาศด้วย ขนาด จัมโบ้


มัจฉานุ
มัจฉานุ ด้านข้าง

มัจฉานุ ด้านหลัง


    มัจฉานุ  มันเก่งทั้งในน้ำและบนบก บนอากาศด้วย ขนาด จัมโบ้
                        กว้างประมาณ 25 ซ.ม.  สูง ประมาณ 39 ซ.ม.

มวลสารสำหรับมัจฉานุรุ่นนี้ครับ

น้ำมันที่ใช้แช่ มัจฉานุ รุ่นนี้ ประกอบด้วย
น้ำมันเหล็กไหล  หลวงปู่ พรหมมา  อิสีขลัง  จ.อุบลราชธานี
น้ำมันเหล็กไหล  ของคุณอวยพร  เจ้าหน้าที่จัดหาที่ดิน กรมชลประทาน ซึ่งเคยมีประสบการณ์ทดลองยิงไม่ออกมาแล้ว  มอบไว้ให้..
น้ำมันแต่งกองทัพพระเจ้าตาก  ของเดิม ที่ได้ขุดพบในบริเวณวัดละหารไร่  ตามคำบอกของหลวงปู่ทิม
น้ำมันเสือ  หลวงปู่ทิม
น้ำมันงา  หลวงปู่ทิม
ผงพรายกุมารเข้มข้น  และผงพุทธคุณที่ได้สะสมมา  ต่างๆ
ผงหนุมานที่หลวงปู่ทิม  ทำไว้เฉพาะ  เมื่อครั้งที่สร้างหนุมาน  ปี 18 (รุ่นแรก) ผงนี้หลวงปู่ผาดถึงกับเอยปากว่า  ผงนี้แรงจนท่านแทบจะรับไม่ไหว  เมื่อครั้งที่เคยบรรจุหนุมานผ่านศึก  ให้หลวงปู่ผาดเสก  จนมีประสบการณ์กล่าวถึงมากมาย
ผงเหล็กเปียก
ผงขี้เหล็กไหล
ผงเหล็กน้ำพี้  ที่บ่อน้ำพี้  เมือง อุตรดิตถ์
สีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง  ซึ่งหลวงปู่ทิมเสกไว้
ผงพุทธคุณ  อิทธิคุณอื่นๆ
ใต้ฐานจารด้วยคาถากำลังหนุมาน และธาตุทั้งสี่

ประมาณ สูงเท่าพนักพิงหน้าบ้าน 
                                                 
                                                   ราคา ที่นี่หน้าหลัก


รายละเอียด:


๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต ยอดพระเกจิอาจารย์เมืองดอกบัวงาม อนุญาตให้ อ.ชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม อิสริโก สร้างพระกริ่งชินบัญชรและเครื่องรางของขลังจากทั้งของสายตะวันออกและสายอีสานก็ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ พระกริ่งชินบัญชรอีสานที่เททองกันแบบโบราณ ก็ดังทะลุฟ้าทะลุดิน เป็นหนึ่งในสยาม;วันเกิด อายุครบ ๙๑ ปีนี้ท่านจึงขอให้ อ.ชินพร สุขสถิตย์ สร้างพระเครื่องให้ท่านอีกครั้ง เพื่อนำรายได้ไปสร้างรูปเหมือนกลางสระน้ำภายในวัดกุดชมภู ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าสระนี้มีอายุกว่า ๑๐๐ ปีเป็นที่อยู่ของพญานาค ที่มีหน้าที่ค่อยปกปักรักษาวัดและชาวกุดชมภู

หลวงปู่คำบุ จึงให้สร้างพระกริ่งชินบัญชรมหาอุปคุต ในวาระที่หลวงปู่คำบุมีอายุครบ ๙๑ ปี พระมหาอุปคุตเถระ เป็นพระอรหันต์ที่มีพระชนม์ยืนยาว ท่านเกิดหลังพระพุทธเจ้านิพพานเพียง ๑๐๐ กว่าปี เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชจัดงานสมโภชฉลองพระสถูปเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ องค์ ก็ได้อาราธาพระอุปคุต ขึ้นมาดูแลคุ้มครองป้องกันไม่ให้พญามารมาทำลายพิธีทั้งให้เอากัลปังหาปักเป็นกำแพงแก้ว และในวารที่หลวงปู่คำบุมีอายุครบ ๙๑ ปี จึงอาราธนาบารมีและฤทธิอำนาจของพระมหาอุปคุตบรรจุลงใน พระกริ่งชินบัญชรมหาอุปคุต เพื่อปราบมาร ขจัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน พร้อมกับสร้าง มัจฉานุ ลูกพญาหนุมานผู้ที่หลวงปู่พรหมา เขมจาโร แห่งส่วนหินผานางคอยริมแม่น้ำโขง สั่งให้ อ.ชินพร ผู้สร้าง หนุมาน หลวงปู่ทิมจนโด่งดังว่า สร้างลูกมันด้วยสิ มันเก่งทั้งในน้ำและบนบก ทั้งในอากาศด้วยมัจฉานุรุ่นแรกก็ดังเป็นที่สุดและหายากมาก

        ก่อนที่จะกำเนิดเป็นพระอุปคุต ท่านเกิดเป็นพญาวานรมาก่อนหนึ่งชาติ ด้วยคตินี้หลวงปู่คำบุจึงอนุญาตให้สร้างมัจฉานุ ขึ้นมาช่วยเป็นทหารเอกให้ พระอุปคุต ปราบมารขจัดความทุกข์ยาก ทั้งยังบรรดาลความมั่งคั่ง มั่นคง ร่ำรวย แก่ผู้เคารพนับถือ ศรัทธา จึงได้สร้างเหรียญเจ้าพระคลังสมบัติ หรือ (ไฉ ซิง เอี้ย) ในลักษณ์นั่งเฝ้าคลังสมบัติ

       วัตถุมงคลทั้งหมดนี้จะนำรายได้ไปก่อสร้างรูปเหมือนหลวงปู่คำบุ คุตตจิตโตขนาดกว้าง ๕ เมตรใน กุดชมภูพิธีเททองจะมีขึ้นในวันคล้ายวันเกิดอายุครบรอบ ๙๑ ปี ของหลวงปู่คำบุ

                ใน วันศุกร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๕.๑๕ น.
        ทำพิธีบรวงสรวงในแพกลวงกุดชมภูเพื่ออันเชิญ พระมหาอุปคุต เถระขึ้นมาจากกลางสะดือทะเล เชื่อแน่ว่าหลวงปู่คำบุ มีบารมีพอจะอาราธนานิมนต์ พระอุปคุตขึ้นมาได้อย่างแน่นอน เพราะท่านละวางหมดกิเลสแล้ว เล็บมือเล็บเท้า ที่ตัดไว้เมื่อ ๓ ปีก่อน กลายเป็นพระธาตุใส่เป็นแก้ว แล้วท่านจะไม่ไปร่วมทำบุญ สร้างกุศลให้ตนเองและครอบครัวกับพระอริยะสงฆ์ในระดับนี้อีกหรือในวันเททอง

 ยังได้อาราธนานิมนต์พระอริยสงฆ์ ๔ รูป นั่งปรกในแพกลางสระน้ำ คือ

๑. หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต นั่งปรกทิศเหนือและจุดเทียนชัย

๒. หลวงปู่ชม โอภาโส วัดสามัคคี จ.หนองคาย ศิษย์เอกองค์สุดท้ายของหลวงปู่พิบูลย์ พระอภิญญาแห่งวัดพระแท่น จ.อุดรธานี นั่งปรกทิศตะวันออก

๓. หลวงปู่บุญมา ปภากโร วัดถ้ำโพงพาง จังหวัดชุมพร ผู้ปลุกเสกจนเหรียญกระโดด สมาธิกล้าแกร่ง นั่งปรกทิศใต้

๔. หลวงปู่แขก เจ้าคุณมงคลสุธี นอกจากนามอันเป็นมงคลแล้วท่านซึ่งสำเร็จเตโชธาตุ เคยเห็นกันอย่างจะจะมาแล้ว นั้งปรกทิศตะวันตก

๕. หลวงพ่อสาย วัดตะเคียนราม ทีชำนาญทางวาโยกสิน สามารถอันเชิญศิวะลึงโบราณ ปฐมกำเนิดโลกขึ้นมาประดิษฐาน จนเกิดความสงบร่มเย็น นั่งปรกในตำแหน่งธาตุทอง ทิศที่ห้า

พระกริ่งชินบัญชรมหาอุปคุต เหรียญเจ้าพระคลังหลวง มัจฉานุ สร้างตามเคล็ดลับ หลวงปู่ทิม (ต้องดัง)
 เพื่อสร้างรูปหล่อหลวงปู่คำบุ
             หลวงปู่คำบุให้ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม จังหวัดระยอง สร้างพระกริ่งชินบัญชรอีสานก็ดังทะลุฟ้า ทะลุดิน จนหมดเกลี้ยง ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ อายุครบ ๙๑ ปี ท่านก็ให้ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ชินพร สุขสถิตย์ สร้างพระกริ่งชินบัญชรมหาอุปคุต เพื่อปราบมาร ดับร้อน ผ่อนเย็น ให้ประเทศชาติที่การเมืองกำลังร้อนเป็นไฟ สงบลง ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ก็ใช้เคล็ดลับที่ซึมซับมาจากหลวงปู่ทิม เชิญอัยการใหญ่ พระจเรตำรวจ และธนบดีใหญ่ มาร่วมพิธีบรวงสรวงและเททอง หล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาอุปคุต มัจฉานุ และเหรียญเจ้าพระคลังหลวง บนแพกลางสระวัดกุดชมพู พระมหาอุปคุต พระอรหันต์ ผู้ปราบพญามาร ก็ปรากฏมีพญานาคนำ ช่างภาพธนาคารออมสินถ่ายได้เพียงด้านหลังยาว หนึ่งวาหลวงปู่ชม ยอดพระเกจิผู้ทรงอภิญญาบอกกับลูกศิษย์ว่าพระอุปคุตมามีพญานาคนำ
            พระกริ่งชินบัญชรมหาอุปคุตปิดก้นด้วยแผ่นทองแดง แผ่นนวโลหะ แผ่นทอง ที่รูปมัจฉานุแล้ว ยังบรรจุด้วย “ผงพรายบัวผุด” ที่เกิดในกระบะใส่ทรายริมหน้าต่างที่หลวงปู่ทิม ล้างหน้าทุกวันตลอด ๗๒ พรรษา
            เมื่อท่านหมดกิเลสแล้วก็มีดอกบัวต้นเล็กๆ ผุดขึ้น เมื่อวันเพ็ญเดือน ๑๒ ท่านทำพระปิดตาบัวผุดได้ ๒๒ องค์ ผู้สร้างได้นำทรายนี้มาบรรจุไว้ด้วยเหมือนพระกริ่งพรายบัวผุดเพื่อให้บังเกิดความขลังและความศักดิ์สิทธิ์

            นอกจากปราบมาร ดับร้อน แล้วต้องให้บังเกิดความสงบร่มเย็นอยู่ดีมีความสุข จึงได้นำ เจ้าพระคลังหลวง ภาคหนึ่งของท้าวกุเวร ผู้มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดในจักรวาล สร้างเป็นเหรียญโดยเชิญนาย ธนาคารใหญ่มาบรวงสรวงให้เป็นไปตามเคล็ดลับบูชาไว้แล้วจะร่ำรวย มีเงิน มีทองมหาศาล



            และยังมีพิธีปลุกเสก อีกหลายครั้ง     ( ที่ ข่าว...ทางด้านซ้าย )