พระขุนแผนพรายกุมาร เนื้อผงเนื้อดำมหาเศรษฐี (กะลาตาเดียว)ว่าน

พระขุนแผนพรายกุมาร เนื้อผงเนื้อดำมหาเศรษฐี (กะลาตาเดียว)ว่าน





ขุนแผนอุ้มกุมารควงดาบฟ้าฟื้น ขี่ม้าสีหมอก ล้อมรอบด้วยยันต์เมตตา มหากำบัง มหาปราบ

พรายแก้วยอดขุนพล


สร้างจากว่าน๑๐๘ปูนจากภูเขาขาวสระบุรี ผงเก่าไม้เสาโบสถเอกของพ่อเฒ่ายิ้ม ดินในถ้ำขุนแผน ผสมผงพรายกุมาร สีผึ้งผีท้องแก่อีส้ม น้ำมันพระเจ้าตาก ยอดขี้เหล็ก ว่านขัดมอญ พร้อมว่าน๑๐๘

พระขุนแผน หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่


เรื่องที่ผมเขียนว่าหลวงปู่ทิมน่าจะได้วิชาทำผงพรายกุมารจากพ่อเฒ่ายิ้มนั้น เท่าที่ผมสืบสานรวมเรื่องไม่ปรากฏว่าท่านไปร่ำเรียนทำผงพรายกุมารมาจกอาจารย์องค์ใด จึงคาดเดากันไปต่างๆ นานา แต่ครั้งที่ท่านยกพระขุนแผนพรายกุมารมาให้ผมหนึ่งปีบแล้วผมไม่เอา ทั้ง ๆที่ท่านย้ำแล้วย้ำอีกว่า ของดีนา ของดีนา ผมก็ยืนกรานไม่เอาท่าเดียว บอกว่าเอาให้คนเช่าบูชาดีกว่า จะได้เอาเงินไปซื้อ อาหารมาถวายพระ เพราะเวลาพระออกบิณบาตร มักจะมีแต่ข้าวอย่างเดียว คุณวิรัช เพื่อนผม ร่วมทั้งคนอื่น ๆ ถามผมว่าทำไมไม่เอา ผมบอกให้ได้ยินกันทุกคนว่า ของกรุเขามีแล้วไม่ดังหรอก เก็บไว้ที่วัดดีกว่า และในคืนนั้นหลวงปู่พูดว่าขุนแผนมีตัวตนอยู่จริง ท่านได้ไปถึงถ้ำนางบัวคลี (ปัจจุบันเรียกว่าถ้ำขุนแผน) มาแล้วท่านพูดเพียงเท่านี้ ไม่มากกว่านี้และผมเคยเขียนประโยคนี้ลงหนังสือไว้นานแล้ว ในครั้งนั้นเราเอาของรวม ๆ กันให้ท่านปลุกเสกก่อนลากลับ ท่านกล่าวเชิญครูบาอาจารย์ดัง ๆ ว่า “โยมเริ่ม โยมรอด หมอวัง หลวงปู่สังเฒ่า พ่อเฒ่า..... หมอแก่” ผมจำได้ว่าผมสวดมนต์ไหว้พระและอัญเชิญครูอาจารย์ ผมก็เอ่ยชื่อครูบาอาจารย์ นี้ด้วย ผมมาถึงบางอ้อ เมื่อท่านผู้การ ละเอียดลัด บัวขม เอาประวัติพ่อเฒ่ายิ้มมาให้ศึกษาก็เลยคิดว่า หลวงปู่ทิม สมัยท่านหนุ่ม ๆ คงเดินธุดงด์ ไปถึงป่าเมืองกาญฯ จึงพูดกับผมว่า ขุนแผนมีตัวตนจริงท่านเคยไปถ้ำนางบัวคลี (เมียที่ขุนแผนผ่าเอากุมาร) มา หลวงปู่ทิม สมัยที่ยังหนุ่ม ๆ อยู่ ท่านเดินธุดงส์ทุกปี และไปกับคณะของหลวงพ่อปาน วัดบ้างเหี้ย ซึ่งหลวงพ่อปานกับพ่อเฒ่ายิ้มนั้นท่านเป็นเพื่อนกัน เรียนวิชากับหลวงพ่อกลิ่น มาด้วยกัน หลวงปู่กลิ่นเป็นสหายกับสมเด็จพุฆจารย์โตและเป็นผู้ทำผงอธิเจให้สมเด็จสร้างพระสมเด็จ มรณะภาพก่อนสมเด็จโต ๖ ปี

เมื่อต้นปี ๒๕๕๓ ผู้การละเอียดรัด บัวขม พาคณะและผมพร้อมศิษย์ ๓ คนไปถ้ำขุนแผนหรือถ้ำนางบัวคลีที่หลวงปู่ทิมเคยพูดถึง เข้าไปจนถึง ถ้ำที่ ๕ ที่ใหญ่และกว้างขวางที่นั้นทางวัดได้ล้อมรั้วเป็นวงกลมไว้ เขียนชื่อสุดยอดเกจิอาจารย์ไว้ ๘ ชื่อท่านบอกว่า เป็นที่ลองวิชาของ ๘ เกจิซึ่งล้วนมีชื่อเสียงโด่งดังทั้ง ๘ องค์ มีชื่อหลวงพ่อปาน วัดคลองด่านอยู่ด้วยหนึ่งองค์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม และหลวงปู่ทิมจะธุดงไปกับคณะของท่านเป็นประจำ ผมไปตักเอาดินที่ปักป้ายชื่อพระเกจิอาจารย์ใส่ถุงมาทั้ง ๘ องค์ โดยทำพิธีสวดมนต์ท่องพระคาถาลั่นถ้ำ จนผู้ที่อยู่ในถ้ำต้องพนมมือกราบ พระที่ลงไปพร้อม ๆ กันทั้งหมด บอกว่า ดินที่ผมตักเอาใส่ถุง ไปนั้นไม่เคยมีใครเอาออกไปได้สักรายเดียว อย่างเก่งเอาไปเพียงคืนเดียวก็ต้องนำกลับมาคืน ผมก็เลยอธิฐานว่า ผมเป็นศิษย์หลวงปู่ทิม ถ้าอาจารย์ผมเคยเรียนวิชาหรือได้คำแนะนำจากพ่อเฒ่ายิ้มในเรื่องการสร้งผงพรายกุมารก็ขอเอาผงดินนี้ไปสร้างพระขุนแผน อย่าต้องเอามาคืนเหมือนคนอื่นเลย และเมื่อขึ้นมาถึงถ้ำแรกท่านผู้การชี้ให้ดูบริเวณที่มีก้อนหินสองก้อนชิดเข้าหากัน ใต้ก้อนหินเป็นช่องว่างท่านบอกตรงนี้เป็นที่ขุนแผนเอากุมารมาย่าง ไม่เคยมีใครเอาดินตรงนั้นออกไปจากถ้ำได้เลย แต่ผมก็ทำพิธีพลีและขุดออกมาอีกก้อนใหญ่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น และเมื่อเอาดินทั้งหมดไปสร้างพระขุนแผนก็ลุล่วงไปดูดี รูปหล่อขุนแผนองค์ที่เป็นที่ชื่นชมแก่ผู้พบเห็นและพระขุนแผนทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ที่แจกกฐินก็ได้เงินทั้งหมดล้านเจ็ดแสนกว่าบาท ซ้ำเมื่อหนุ่ม ๑๙ เซียนพระและเจ้าของรายการวิทยุชื่อดังเอาไปลองยิงที่งานศพหลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้วกระสุนด้านทั้ง ๓ นัด การสำเร็จลุล่วงขนาดนี้ ผมเชื่อว่า หลวงปู่ทิมคงได้รับคำแนะนำจากพ่อเฆ่ายิ้มในเรื่องการทำผงพรายกุมารอย่างแน่นอน

ชินพร สุขสถิตย์


มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก

ท่านสามารถอ่านรายละเอียดพระขุนแผนพรายกุมาร



ได้ในหน้า (ข่าว-พระเครื่อง) ด้านซ้าย