พระเจ้าตาก เนื้อเงิน (เจ้าสัว)ทรงบัลลังก์
ที่ระลึกในการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พร้อมที่ประทับ ณ.วังสามพญาที่ๆเจ้าตากทรงนำช้างศึก มาพักทัพวางยุทธการ ก่อนตีเมืองจันทบุรี เพื่องานกู้ชาติกู้แผ่นดินคงความเป็นไทตราบเท่าทุกวันนี้
ทุกองค์ตอกโค๊ต อุดพรายผงกุมาร-สีผึ้งหลวงปู่ทิมและน้ำมันพระเจ้าตาก เข้าพีธีสมโภชน์ พุทธาภิเษก เทวาภิเษก ณ.วัดละหารไร่ จังหวัด ระยอง โดยสุดยอดคณาจารย์ภาคตะวันออก เสาร์ที่ ๒๔มกราคม๒๕๕๒ ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน มูลนิธิ หลวงปู่ทิม อิสริโก
ชาวเมืองฮิ ต้อนรับเนืองแน่นแห่แหน ชื่นชมพระบารมีบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากมหาราช พร้อมรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดของ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รอบเมืองระยอง ฮือฮา..ทะเบียนรถที่บรรทุกเจ้าตาก ออกตรงๆ ๐๑๕ สมชื่อ “เจ้าตาก – เจ้าสัว”
ในที่สุดความหวังของหลวงปู่ทิม อิสริโก และชาวบ้านหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จ.ระยองก็เป็นความจริงหลังจากรอคอยมากว่า ๓๐ ปี ก่อนดำเนินการสร้างพระเครื่องชุดชินบัญชร อันโด่งดังของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เป็นวัดที่ค่อนข้างยากจน แม้หลวงปู่ทิมจะเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งแสนเก่งที่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้ว แต่ท่านก็เป็นแบบ เสือซุ่ม ถ่อมตัวเก็บตัวเงียบสงบ ไม่สร้างถาวรวัตถุใดๆ ในบั้นปลายชีวิตของท่านรับศิษย์และครอบครูให้คุณชินพร สุขสถิตย์ศิษย์คนที่ ๑๙เป็นคนสุดท้าย จึงได้มีการสร้างพระชุดชินบัญชร ,พระเครื่องพิมพ์ต่างๆขึ้น และโด่งดังอยู่ในขณะนี้ โบสถ์ ศาลา หอฉันท์ กุฏิสงฆ์ ก็เกิดขึ้นพร้อมทั้งซื้อที่ขยายวัดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ถ่อมตัวเก็บตัวเงียบสงบ ไม่สร้างถาวรวัตถุใดๆ ในบั้นปลายชีวิตของท่านรับศิษย์และครอบครูให้คุณชินพร สุขสถิตย์ศิษย์คนที่ ๑๙เป็นคนสุดท้าย จึงได้มีการสร้างพระชุดชินบัญชร ,พระเครื่องพิมพ์ต่างๆขึ้น และโด่งดังอยู่ในขณะนี้ โบสถ์ ศาลา หอฉันท์ กุฏิสงฆ์ ก็เกิดขึ้นพร้อมทั้งซื้อที่ขยายวัดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงปี ๒๕๑๗-๒๕๑๘ ชาวบ้านหนองละลอกและศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่ทิมเล่าว่าวังสามพญา หน้าวัดละหารไร่หรือหล่มน้ำเย็นในแม่น้ำบ้านค่ายหน้าวัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าตากเอาช้างศึกม้าศึกและทหารหาญมาอาบน้ำในวังสามพญา ก่อนยกทัพไปตีเมืองจันได้จนกู้ชาติกู้บ้านกู้เมืองสำเร็จ จังหวัดระยองถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตักน้ำหน้าวัดไปเข้าพิธีฉลองพระชนม์มายุในหลวงทุกครั้ง และเป็นสถานที่ที่ หลวงปู่ทิมก็ไปลงตะกรุดใต้น้ำ ณ ที่นี้ ชาวบ้านและศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ทิม บอกว่าพวกเราชาวบ้านอยากจะให้ ชินพรสร้างรูปพระเจ้าตากไว้เป็นที่ระลึกว่าสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญไม่น้อยกว่าที่อื่น ขนาดที่เจ้าตากสร้างพระยอดธงขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรก ก่อนจะยกทัพเพียง ๕๐๐ คนไปตีเมืองจันทร์ ทั้งได้เอาน้ำมันแต่งกองทัพพร้อมทั้งร่างของทหารหาญฝั่งไว้ที่นั้น ซึ่งหลวงพ่อทิมให้ขุดออกมา เรียก น้ำมันพระเจ้าตาก และนำมาผสมเพื่อทำของขลังสร้างวัด เมื่อรับรู้ความต้องการของชาวบ้าน คุณชินพร สุขสถิตย์ ก็ยังมืดแปดด้านไม่รู้จะสร้างได้อย่างไร เพราะต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย ก่อนหลวงปู่ทิมมรณะภาพ ท่านก็สั่งว่า “พรอย่าทิ้งวัดนะ” เมื่อพระครูวิจิตรธรรมภิรัตหรือหลวงพ่อเชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่องค์ถัดมาได้เข้ามาพัฒนาวัดและคณะศิษย์ได้ก่อตั้งมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมทั้งได้ช่วยกันหาปัจจัยมาบูรณะและพัฒนาวัดละหารไร่ขึ้นตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเห็นได้จากถาวรวัตถุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความคิดที่จะสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าตากก็ยังมีอยู่ และในที่สุดความจริงก็เกิดขึ้นแล้ว! อนุสาวรีย์ พร้อมวิหารพระเจ้าตากสร้างเสร็จแล้วอย่างสง่างาม กรมศิลปกรได้มาตรวจสอบอาคารสถานที่แล้วเห็นชอบที่จะให้สร้างพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสิน มาประดิษฐานไว้ที่วังสามพญาได้แต่ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของกรมศิลปากร ค่าก่อสร้างเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากที่จะหล่อที่วัดต้องใช้เงินเกือบสองล้านบาท ซึ่งวัดไม่มีงบประมาณพอ มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ ประธานกรรมการจึงบอกบุญคณะศิษย์หลวงปู่ทิมให้ช่วยกันสร้างเททองหล่อเสร็จแล้ว เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๑ และได้เคลื่อนย้ายมาวัดละหารไร่เมื่อวันอังคารที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๒
ในที่สุดความหวังของหลวงปู่ทิม อิสริโก และชาวบ้านหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จ.ระยองก็เป็นความจริงหลังจากรอคอยมากว่า ๓๐ ปี ก่อนดำเนินการสร้างพระเครื่องชุดชินบัญชร อันโด่งดังของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เป็นวัดที่ค่อนข้างยากจน แม้หลวงปู่ทิมจะเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งแสนเก่งที่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้ว แต่ท่านก็เป็นแบบ เสือซุ่ม ถ่อมตัวเก็บตัวเงียบสงบ ไม่สร้างถาวรวัตถุใดๆ ในบั้นปลายชีวิตของท่านรับศิษย์และครอบครูให้คุณชินพร สุขสถิตย์ศิษย์คนที่ ๑๙เป็นคนสุดท้าย จึงได้มีการสร้างพระชุดชินบัญชร ,พระเครื่องพิมพ์ต่างๆขึ้น และโด่งดังอยู่ในขณะนี้ โบสถ์ ศาลา หอฉันท์ กุฏิสงฆ์ ก็เกิดขึ้นพร้อมทั้งซื้อที่ขยายวัดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ถ่อมตัวเก็บตัวเงียบสงบ ไม่สร้างถาวรวัตถุใดๆ ในบั้นปลายชีวิตของท่านรับศิษย์และครอบครูให้คุณชินพร สุขสถิตย์ศิษย์คนที่ ๑๙เป็นคนสุดท้าย จึงได้มีการสร้างพระชุดชินบัญชร ,พระเครื่องพิมพ์ต่างๆขึ้น และโด่งดังอยู่ในขณะนี้ โบสถ์ ศาลา หอฉันท์ กุฏิสงฆ์ ก็เกิดขึ้นพร้อมทั้งซื้อที่ขยายวัดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงปี ๒๕๑๗-๒๕๑๘ ชาวบ้านหนองละลอกและศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่ทิมเล่าว่าวังสามพญา หน้าวัดละหารไร่หรือหล่มน้ำเย็นในแม่น้ำบ้านค่ายหน้าวัด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าตากเอาช้างศึกม้าศึกและทหารหาญมาอาบน้ำในวังสามพญา ก่อนยกทัพไปตีเมืองจันได้จนกู้ชาติกู้บ้านกู้เมืองสำเร็จ จังหวัดระยองถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตักน้ำหน้าวัดไปเข้าพิธีฉลองพระชนม์มายุในหลวงทุกครั้ง และเป็นสถานที่ที่ หลวงปู่ทิมก็ไปลงตะกรุดใต้น้ำ ณ ที่นี้ ชาวบ้านและศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ทิม บอกว่าพวกเราชาวบ้านอยากจะให้ ชินพรสร้างรูปพระเจ้าตากไว้เป็นที่ระลึกว่าสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญไม่น้อยกว่าที่อื่น ขนาดที่เจ้าตากสร้างพระยอดธงขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรก ก่อนจะยกทัพเพียง ๕๐๐ คนไปตีเมืองจันทร์ ทั้งได้เอาน้ำมันแต่งกองทัพพร้อมทั้งร่างของทหารหาญฝั่งไว้ที่นั้น ซึ่งหลวงพ่อทิมให้ขุดออกมา เรียก น้ำมันพระเจ้าตาก และนำมาผสมเพื่อทำของขลังสร้างวัด เมื่อรับรู้ความต้องการของชาวบ้าน คุณชินพร สุขสถิตย์ ก็ยังมืดแปดด้านไม่รู้จะสร้างได้อย่างไร เพราะต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย ก่อนหลวงปู่ทิมมรณะภาพ ท่านก็สั่งว่า “พรอย่าทิ้งวัดนะ” เมื่อพระครูวิจิตรธรรมภิรัตหรือหลวงพ่อเชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่องค์ถัดมาได้เข้ามาพัฒนาวัดและคณะศิษย์ได้ก่อตั้งมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมทั้งได้ช่วยกันหาปัจจัยมาบูรณะและพัฒนาวัดละหารไร่ขึ้นตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเห็นได้จากถาวรวัตถุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความคิดที่จะสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าตากก็ยังมีอยู่ และในที่สุดความจริงก็เกิดขึ้นแล้ว! อนุสาวรีย์ พร้อมวิหารพระเจ้าตากสร้างเสร็จแล้วอย่างสง่างาม กรมศิลปกรได้มาตรวจสอบอาคารสถานที่แล้วเห็นชอบที่จะให้สร้างพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสิน มาประดิษฐานไว้ที่วังสามพญาได้แต่ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของกรมศิลปากร ค่าก่อสร้างเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากที่จะหล่อที่วัดต้องใช้เงินเกือบสองล้านบาท ซึ่งวัดไม่มีงบประมาณพอ มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ ประธานกรรมการจึงบอกบุญคณะศิษย์หลวงปู่ทิมให้ช่วยกันสร้างเททองหล่อเสร็จแล้ว เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๑ และได้เคลื่อนย้ายมาวัดละหารไร่เมื่อวันอังคารที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๒